Review of Ake Uglies (2024) Beauty that is distorted
Review of Ake Uglies (2024) Beauty that is distorted
Blog Article
รีวิว อั๊กลี่ Uglies (2024) ความสวยที่ถูกบิดเบือน
ข้อมูลหนัง : อั๊กลี่ Uglies (2024)
ประเภท : ไซไฟ, แอ็คชัน, ดราม่า
วันที่เข้าฉาย : 13 กันยายน 2567
นักแสดงนำ : Joey King
ผู้กำกับ : McG
ความยาว : 1 ชั่วโมง 40 นาที
เรตติ้ง IMDb : –
ช่องทางการดู : Netflix
เรื่องย่อ
Uglies ว่าด้วยสถานการณ์ในโลกอนาคตอันใกล้ หลังจากที่โลกต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์ทางทรัพยกรครั้งใหญ่ โลกได้คิดค้นการแก้ไขปัญหาด้วยการแปลงโฉมที่ไปสู่ความสงบสุข โดยเด็กหนุ่มและเด็กสาวที่มีอายุ 16 ปีบริบูรณ์ จะได้รับการผ่าตัดศัลยกรรมแปลงโฉม จากกลุ่มคนอัปลักษณ์กลายเป็นโฉมงามที่จะเปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์ไปชั่วชีวิต แทลลี เด็กสาวที่เฝ้ารอคอยที่เป็นส่วนหนึ่งในสังคมอันสง่างาม กระทั่งได้ทราบว่าเพื่อนสนิทของเธอได้หายตัวไป เธอจึงออกได้ตามหา และนำไปสู่จุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงแนวคิดที่เธอยึดถือไปตลอดกาล การ์ตูนออนไลน์
เอาจริง ๆ หนังเรื่องนี้เป็นเหมือนการมาเพื่อช่วยตอกย้ำให้ได้รู้ว่าหนังที่สร้างมาจากนิยายวัยรุ่น (YA Books) แทบจะไม่เหลือพื้นที่ให้ได้หายใจในยุคสมัยนี้อีกต่อไป เพราะมันกลายเป็นคอนเทนท์ที่ค่อนข้างซ้ำซากและตกยุคไปแทบจะไม่เหลือเสน่ห์ นี่คือหนังที่ให้กลิ่นอายความพยายามอยากจะเป็นแบบ The Hunger Games แต่สุดท้ายมันก็ทำออกมาได้แค่ในระดับมาตรฐาน Divergent หรือ The Given ที่ยิ่งทำก็ยิ่งพัง
นี่คือผลงานล่าสุดของ "แม็กจี" ผู้กำกับมือฉมังที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการมา 30 ปี ที่แน่นอนว่าในด้านองค์ประกอบงานสร้างและงานโปรดักชันนั้น สามารถไว้วางเขาคนนี้ได้อยู่ เพราะประสบการณ์ทั่สั่งสมมายาวนาน และเขารู้ดีว่าต้องจัดแจงสร้างผลงานออกมาอย่างไร แต่ทว่าน่าเสียดาย Uglies กลายมาเป็นเพียงหนังแอคชันโลกดิสโทเปียที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่แข็งทื่อ กับอินเนอร์ที่ไม่ต่างกับการนำมารีไซเคิลใช้ใหม่ ทั้งที่วันหมดอายุเลยไปนานแล้ว
กลายเป็นว่าหนังเป็นการทุ่มเทไปกับการใช้ทรัพยากรเทคนิคพิเศษซีจีไอแบบเทราดลงไปในนั้น พร้อมกับใช้องค์ประกอบของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ประกอบเข้าไปในแบบเฉิ่ม ๆ เชย ๆ ที่กลายเป็นชิ้นส่วนที่ใช้แบบเกลื่อนกลาดไปหมด จนทำให้ตัวหนังขาดมนต์ขลังและเสน่ห์ไปอย่างค่อนข้างน่าผิดหวัง อีกทั้งยังเริ่มก่อกำเนิดเป็นความเหนื่อยหน่ายกับความพยายามที่จะสร้างเป็นหนังชุดที่ปูทางเอาไว้ให้ภาคต่อ ๆ ไป ที่ก็ไม่มีใครรู้ว่าจะมีโอกาสดูต่อเมื่อไหร่
พล็อตเรื่องของ Uglies ก็เป็นอะไรที่ไม่ใหม่เลย เข้าลูปวังวนเดิม ๆ ตามสไตล์หนังที่สร้างมาจากนิยายวัยรุ่นที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับโลกอนาคต ประเด็นที่หลักที่ชูขึ้นมานั้นก็ค่อนข้างขาดความสมเหตุสมผลไปประมาณหนึ่ง ถึงจะหยิบเอาเรื่องบรรทัดฐานทางสังคมในแง่ Beauty Standard มาใช้ แต่น่าเสียดายที่ตัวหนังก็ไม่ได้ทำการอธิบายและปูทางมันออกมาได้อย่างน่าสนใจและกินใจได้เพียงพอ จึงทำให้การเปิดฉากของหนังเรื่องนี้ยังค่อนข้างไร้ความอิมแพคและไร้น้ำหนักในการสร้างแรงจูงใจไปอยู่
ในแง่การแสดง "โจอี คิง" ก็คือนักแสดงสาวที่เอาอยู่ในทุก ๆ บทบาทอยู่แล้ว ซึ่งการก้าวมารับบทนี้ของเธอก็ออกจะชวนทำให้ผิดหวังเบา ๆ เพราะราวกับว่าทักษะการแสดงของเธอแทบจะไม่ก้าวหน้าไปไหนสักเท่าไหร่ มัวแต่รับบทซ้ำ ๆ เดิม ๆ ที่ไม่ได้มีอะไรที่ท้าทายฝีมือ ทั้งที่เธอสมควรจะได้บทที่ปังและท้าทายมากกว่านี้ ดังนั้นงานแสดงในหนังเรื่องนี้จึงยังมีแต่ความเป็นโจอี ในรูปแบบการสวมวิญญาณเป็นตัวละครหลักในนิยายวัยรุ่นแบบพบเห็นได้ทั่ว ๆ ไป
ขณะที่นักแสดงสมทบคนอื่น ๆ ก็แทบจะช่วยประคับประคองหนังเรื่องนี้แทบไม่อยู่กันเลย "คีธ พาวเวอร์ส" ที่ถูกเปิดตัวในฐานะตัวละครลับที่สำคัญ แต่ตัวหนังไม่สามารถเพิ่มพลังให้กับคาแรกเตอร์นี้ได้อย่างเต็มที่นัก เช่นเดียวกับบรรดานักแสดงดาวรุ่งหน้าใหม่ เช่น "เชส สโตกส์" หรือ "บริแอนน์ เจียว" ก็ยังมีชั่วโมงบินทางแอคติ้งที่ยังน้อยไป ยิ่งมาเจอท่วงท่าการแสดงอันแข็งโป๊กกับสีหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์เลย ด้วยฤทธิ์เครื่องมือเสริมความงามของ "ลาเวิร์น ค็อกซ์" ยิ่งทำให้การแสดงในหนังเรื่องนี้สยดสยองขึ้น ทั้ง ๆ ที่บทบาทนี้ของเธอดูจะเข้ากับเนื้อหาของหนังมากที่สุดแล้ว
โดยสรุปแล้ว Uglies ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งความพยายามที่จะเรียกศรัทธาหนังจากนิยายวัยรุ่นแนวดิสโทเปียที่ยังทำผลลัพธ์ออกมาได้ไม่ใกล้เคียงกับความสำเร็จ เพราะหนังยังขาดแรงจูงใจที่น่าดึงดูดใจอยู่เยอะ กลายออกมาเป็นแค่หนังพล็อตซ้ำ ๆ เดิม ๆ ที่ไม่มีอะไรให้น่าหลงใหลอะไรเท่าไหร่ ประเด็นหลักที่ชูขึ้นมาก็ไม่มีเรียวแรงพอ โชคดีที่ได้นายทุนเงินหนาที่พอจะทุ่มทุนสร้างแบบสุดโต่ง ทำให้เราได้เห็นมหกรรมการกระหน่ำยิงซีจีและใช้เอไอแบบหนักมือ ที่ดูจะเป็นการสูญเสียทรัพยากรไปเปล่า ๆ เพราะปลายทางนั้นก็เป็นเพียงก็จับเอาของที่หมดอายุไปแล้วมาละเลงเล่นใหม่เท่านั้นเอง
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์
ในช่วงแรกของภาพยนตร์ Tally ถูกนำเสนอผ่านเสียงบรรยายที่แสดงให้เห็นถึงความเรียบง่ายและขาดอารมณ์ ซึ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนกำลังอ่านข้อมูลจากตำราเรียน การนำเสนอแบบนี้ส่งผลให้ “Uglies” ขาดความน่าสนใจ แม้ว่าเรื่องราวจะมีความตึงเครียด แต่การดำเนินเรื่องกลับเป็นไปอย่างซ้ำซากและขาดการพัฒนา hd-2u.com
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียน Jacob Forman, Vanessa Taylor และ Whit Anderson สามารถสร้างโลกและบุคลิกภาพของ Tally ได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่าง Tally กับ Peris (Chase Stokes) ที่เรียกกันว่า Squint และ Nose ตามลำดับ ความสัมพันธ์นี้ถูกทดสอบเมื่อ Peris ต้องเข้ารับการผ่าตัดก่อน Tally สองเดือน และทั้งคู่ได้ทำสัญญาที่จะพบกันที่สะพานเชื่อมระหว่าง “คนไม่สวย” และเมืองที่เต็มไปด้วยความสวยงาม
เมื่อ Peris ไม่ปรากฏตัวตามนัด Tally จึงตัดสินใจหลบหนีออกจากสถานที่เพื่อค้นหาสาเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งการหลบหนีของเธอเต็มไปด้วยความชาญฉลาดที่คาดหวังจากตัวละครที่ถูกเลือกให้เป็น “ผู้ถูกเลือก” ในเรื่องราวนี้ แม้ว่าจะมีการพูดถึงความสำคัญของ “ความงามภายใน” แต่ความคาดหวังในเรื่องนี้กลับกลายเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่าย เมื่อ Tally ต้องเรียนรู้บทเรียนนี้และพูดว่า “ฉันไม่รู้ว่าค่าของความสวยคือจิตใจของคุณ” ให้กับกลุ่มคนที่เธอรู้สึกผิดหวัง การรวมตัวกันเพื่อต่อสู้กับ Dr. Cable กลับกลายเป็นการต่อสู้ที่น่าเบื่อหน่าย โดยไม่มีความตื่นเต้นใด ๆ
การจบเรื่องของภาพยนตร์ยังเปิดโอกาสให้มีภาคต่อ แต่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกลับไม่ทำให้ผู้ชมต้องการติดตามเรื่องราวต่อไป เนื่องจากภาพยนตร์นี้ไม่ได้นำเสนออะไรที่มีความหมาย
#การ์ตูนออนไลน์ #Uglies #อั๊กลี่
กลับด้านบน Report this page