Movie Review Revolutionary Road (Road of Dreams, Us Two Forever)
Movie Review Revolutionary Road (Road of Dreams, Us Two Forever)
Blog Article
รีวิวหนัง Revolutionary Road (ถนนแห่งฝัน สองเรานิรันดร์)
ประเภทของภาพยนตร์: ดราม่า/โรแมนติก
วันที่เข้าฉาย: 30 มกราคม 2552
ผู้กำกับ: Sam Mendes
นักแสดงนำ: Leonardo DiCaprio/Kate Winslet/Michael Shannon/Kathryn Hahn/David Harbour/Kathy Bates
ความยาว : 119 นาที
เรื่องย่อ:
หนังฟรี 2024 ในปี 1948 แฟรงก์ วีลเลอร์ เป็นคนงานขนถ่ายสินค้าที่พบกับเอพริลในงานปาร์ตี้ ทั้งสองต่างเต็มไปด้วยความฝันและความหวังในชีวิต แฟรงก์ใฝ่ฝันว่าจะได้เป็นแคชเชียร์ ส่วนเอพริลมีความฝันที่จะเป็นนักแสดง อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป ชีวิตของทั้งสองกลับไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง แฟรงก์ได้งานขายที่บริษัท Knox Machines และเขากับเอพริลก็แต่งงานกัน ทั้งคู่ย้ายไปอยู่ที่บ้านเลขที่ 115 บนถนน Revolutionary Road ในเขตชานเมืองคอนเนตทิคัตเมื่อเอพริลตั้งครรภ์ ทำให้ชีวิตคู่ดูเหมือนจะก้าวไปอีกขั้น
ครอบครัววีลเลอร์กลายเป็นเพื่อนกับ เฮเลน กิฟวิงส์ นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ของพวกเขา, โฮเวิร์ด สามีของเธอ รวมทั้งมิลลี แคมป์เบลล์ เพื่อนบ้านและเชป สามีของเธอ สำหรับผู้คนรอบข้าง ครอบครัววีลเลอร์ดูเหมือนจะเป็นคู่รักที่สมบูรณ์แบบ แต่แท้จริงแล้วความสัมพันธ์ของพวกเขามีปัญหาอยู่ภายใน เอพริลไม่สามารถประสบความสำเร็จในสายงานการแสดงที่เธอใฝ่ฝัน ขณะที่แฟรงก์เองก็รู้สึกเบื่อหน่ายกับงานขายที่แสนจำเจของเขา
ในวันเกิดครบรอบ 30 ปีของแฟรงก์ เขาได้เชิญเลขาสาวจากที่ทำงานมาดื่มด้วยกัน หลังจากเมาหนัก แฟรงก์และเลขาก็มีเซ็กส์กัน แม้ชีวิตที่บ้านจะดูเรียบง่ายและเป็นปกติ แต่ภายในใจแฟรงก์และเอพริลกลับเต็มไปด้วยความขัดแย้ง เอพริลหวังที่จะหลีกหนีจากชีวิตที่ซ้ำซากในชานเมือง และเริ่มเสนอแผนการใหม่ให้แฟรงก์ พวกเขาควรย้ายไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ปารีส ที่ที่แฟรงก์จะได้ค้นพบตัวเองและใช้ชีวิตที่เขารัก ในตอนแรกแฟรงก์รู้สึกลังเล แต่ในที่สุดเขาก็ยอมตกลง เพราะหวังว่าแผนนี้จะช่วยให้ชีวิตของพวกเขากลับมามีความสุขอีกครั้ง
ในช่วงเวลาหลายสัปดาห์ต่อมา ครอบครัววีลเลอร์ได้บอกแผนการของพวกเขาให้คนรู้จักหลายคนฟัง และดูเหมือนว่าจอห์น กิฟวิงส์ ลูกชายของเฮเลน ผู้ที่เคยอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวช จะเป็นคนที่เข้าใจแผนการของพวกเขามากที่สุด แต่เมื่อเอพริลตั้งครรภ์อีกครั้งและแฟรงก์ได้รับข้อเสนอเลื่อนตำแหน่ง งานที่เขาทำอยู่ดูจะมั่นคงขึ้น ทั้งสองก็เริ่มเกิดความไม่มั่นใจเกี่ยวกับแผนการย้ายไปปารีส ทำให้พวกเขาทะเลาะกันบ่อยครั้ง โดยเฉพาะเมื่อเอพริลเปิดเผยว่าเธอคิดจะทำแท้งเพื่อตามหาความฝันในการย้ายไปปารีสที่เธอเคยวางไว้
แฟรงก์พยายามรับมือกับความเรียบง่ายของชีวิตและรับตำแหน่งงานที่เสนอให้ ขณะเดียวกัน เชป แคมป์เบลล์เพื่อนบ้านของพวกเขา ก็แอบหลงรักเอพริลมาโดยตลอด ในคืนหนึ่งที่บาร์แจ๊ส หลังจากที่ทุกคนดื่มหนัก เอพริลและเชปลงเอยด้วยการอยู่ตามลำพัง และเอพริลก็ยอมรับว่าเธอรู้สึกหดหู่ใจมากกับแผนการย้ายไปปารีสที่ถูกยกเลิก สุดท้ายทั้งสองมีเซ็กส์กันในรถของเชป แต่เมื่อเชปสารภาพความรักที่มีต่อเธอ เอพริลกลับปฏิเสธความสนใจของเขา
วันรุ่งขึ้น แฟรงก์สารภาพกับเอพริลว่าเขามีชู้ หวังว่าการสารภาพนี้จะทำให้เขาและเอพริลคืนดีกันได้ แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับเป็นคำตอบที่เยือกเย็นและไม่แยแสจากเอพริล เธอบอกว่าเธอไม่ได้รักเขาอีกต่อไปแล้ว แต่แฟรงก์ยังคงไม่เชื่อ เมื่อครอบครัวกิฟวิงส์มาทานอาหารเย็น จอห์นได้ตำหนิแฟรงก์อย่างหนักที่ทำลายความหวังของเอพริล และยอมรับกับชีวิตที่จำเจ ทำให้แฟรงก์โกรธจัดจนเกือบทำร้ายจอห์น
หลังจากที่ทั้งสองทะเลาะกันอย่างรุนแรง เอพริลตัดสินใจออกจากบ้านไปเพื่อตั้งสติ เช้าวันรุ่งขึ้น เธอกลับมาทำอาหารเช้าให้แฟรงก์อย่างใจเย็นราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แฟรงก์ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงรับประทานอาหารกับเธอแล้วออกไปทำงาน ระหว่างที่แฟรงก์ไม่อยู่ เอพริลได้ตัดสินใจทำแท้งด้วยตนเอง และทำให้เกิดการตกเลือดอย่างรุนแรงจนต้องเรียกรถพยาบาล แม้จะพยายามทุกวิถีทาง แต่เอพริลก็เสียชีวิตที่โรงพยาบาลจากการเสียเลือด
แฟรงก์ที่โศกเศร้าและเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ย้ายเข้ามาในเมืองและหันไปขายคอมพิวเตอร์ เขาใช้เวลาว่างทั้งหมดไปกับลูก ๆ ของเขา ในขณะเดียวกัน บ้านหลังเก่าของครอบครัววีลเลอร์ถูกขายให้กับคู่รักใหม่ชื่อครอบครัว Braces ซึ่งเฮเลน กิฟวิงส์มองว่าพวกเขาเหมาะสมกับบ้านหลังนี้เป็นอย่างดี แต่เมื่อเฮเลนพูดถึงครอบครัววีลเลอร์ โฮเวิร์ด สามีของเธอเพียงแค่ปิดเครื่องช่วยฟัง ไม่อยากฟังเรื่องราวเก่า ๆ อีกต่อไป
เรื่องราวของครอบครัววีลเลอร์สะท้อนถึงความฝันและความผิดหวังของคนในยุคหลังสงคราม ที่ถูกดึงเข้าสู่สังคมชานเมืองที่ดูสวยงามภายนอก แต่แท้จริงแล้วกลับเต็มไปด้วยความเหงาและความไม่พอใจในชีวิต พวกเขาต้องเผชิญกับความจริงที่ยากลำบาก และพยายามหาทางออกให้กับชีวิตที่ดูจะไม่มีทางเลือกมากนัก จนในที่สุดความฝันที่เคยหวังไว้ก็มลายหายไปอย่างน่าเสียดาย
ความรู้สึกหลังจากชมภาพยนตร์:
Revolutionary Road (ถนนแห่งฝัน สองเรานิรันดร์) เป็นภาพยนตร์ดราม่าที่พาผู้ชมกลับไปสำรวจความฝัน ความทะเยอทะยาน และความแตกสลายในชีวิตคู่ของแฟรงก์และเอพริล วีลเลอร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดยแซม เมนเดส และได้สองดาราคู่ขวัญ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ และ เคต วินสเล็ต มาแสดงร่วมกันอีกครั้งหลังจาก Titanic ซึ่งการแสดงของพวกเขาทั้งสองคนก็นำพาเรื่องราวให้มีความเข้มข้นและสะท้อนอารมณ์ลึกซึ้งยิ่งขึ้น mvhd24.com
เรื่องราวของ Revolutionary Road พาผู้ชมไปสัมผัสชีวิตของแฟรงก์และเอพริล วีลเลอร์ ที่ดูเหมือนจะเป็นคู่รักที่สมบูรณ์แบบและมีชีวิตที่น่าอิจฉาในยุค 1950 แต่เบื้องหลังภาพลักษณ์ที่สวยงามนั้นกลับเต็มไปด้วยความฝันที่พังทลายและความรู้สึกสิ้นหวังที่ค่อยๆ คืบคลานเข้ามา เอพริลเป็นผู้หญิงที่มีความฝันอยากจะไปใช้ชีวิตที่ปารีส เธอหวังว่าจะช่วยให้แฟรงก์หาสิ่งที่เขารัก และพวกเขาจะได้หลีกหนีจากชีวิตในชานเมืองที่น่าเบื่อ
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของคนยุคกลางศตวรรษที่ 20 ที่ต้องการแสวงหาความสุขและความสมบูรณ์ในชีวิต แต่เมื่อความเป็นจริงไม่เป็นดังหวัง ความตึงเครียดในชีวิตคู่ก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งทั้งแฟรงก์และเอพริลต้องเผชิญหน้ากับความเปราะบางของความสัมพันธ์
การแสดงของลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ และ เคต วินสเล็ต ทำให้ผู้ชมรับรู้ถึงอารมณ์ที่ทั้งสองตัวละครต้องเผชิญ ทั้งความสุขและความทุกข์ ความหวังและความสิ้นหวัง การพยายามหาทางออกจากชีวิตที่ไร้สีสัน ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนในยุคสมัยนั้นต้องเผชิญ การเผชิญหน้าระหว่างความฝันและความเป็นจริงในภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ผู้ชมต้องกลับมาคิดทบทวนถึงความหมายของความสุขที่แท้จริง
Revolutionary Road ถ่ายทอดความตึงเครียดและความลึกซึ้งในชีวิตคู่ ผ่านการกำกับภาพที่สวยงามและการแสดงที่ทรงพลัง ทุกฉากเต็มไปด้วยความหมายและความซับซ้อนของอารมณ์ ตั้งแต่ความหวังที่ถูกทำลายไปจนถึงความสิ้นหวังที่ไม่สามารถหลีกหนีไปได้ แซม เมนเดสได้สร้างโลกที่ผู้ชมสามารถสัมผัสได้ถึงความเป็นจริงที่โหดร้ายของชีวิตคู่
ฉากสุดท้ายของภาพยนตร์ทำให้ผู้ชมรู้สึกอึดอัดและทิ้งคำถามให้กับตนเองว่า ชีวิตที่เราคิดว่าเป็น "ความฝัน" จริงๆ แล้วเป็นเช่นไร และเราพร้อมจะยอมรับสิ่งที่ตามมาจากการตัดสินใจของเราได้มากน้อยเพียงใด Revolutionary Road ไม่เพียงแต่เป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องชีวิตคู่ แต่ยังเป็นการสะท้อนถึงความเป็นมนุษย์ ความหวัง และความฝันที่เราทุกคนต่างพยายามคว้าเอาไว้
ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เราต้องหันกลับมามองชีวิตของเราเอง ว่าความฝันและความคาดหวังในชีวิตนั้นมีค่าแค่ไหน และหากเราไม่สามารถเดินตามความฝันได้ เราจะรับมือกับความผิดหวังนั้นอย่างไร Revolutionary Road เป็นภาพยนตร์ที่สะท้อนถึงความเป็นมนุษย์อย่างลึกซึ้ง และการตัดสินใจของเราที่อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตทั้งชีวิตได้
#ดูหนังฟรี #ดูหนังใหม่2024 #RevolutionaryRoad #ถนนแห่งฝัน สองเรานิรันดร์
กลับด้านบน Report this page